เที่ยวญี่ปุ่น ที่แปลกใหม่ ไม่ซ้ำใคร ตอน หนีความเจริญ ไปเดิน โคจิ.. ญี่ปุ่น ก็มีบ้านนอก กับเขาด้วย.ตอน ที่ 1
ญี่ปุ่น ประเทศ ยอดฮิตติดอันดับที่ หลายคนไป แล้วไปอีก ไปซ้ำๆ ไม่มีเบื่อ ..
แถมตอนนี่ ฟรีวีซ่า บินแล้วได้เข้าประเทศแน่ๆ ไม่มีส่งกลับ ไม่มีจับขัง ถึงแม้ว่าจะแต่งตัวฮาราจูกุ หรือทาปาก สีแดงเพลิง ตม. ญีปุ่น ใจดี ก็ยังให้ผ่าน ได้ง่ายๆ
แต่คนไทย ไปกันจัง ที่เดิมๆ โตเกียว เกียวโต โอซาก้า ช่วงไหนวันหยุดยาวเนี่ย นึกว่าเดินอยู่แถวสยาม
เดินไปทางไหน ก็เจอแต่คนไทย..
ใครที่ไม่ชอบบรรยากาศแออัด .. ไม่ชอบบรรยากาศ กว้านซื้อ .. ไม่ชอบบรรยากาศ จอแจ.
มีที่เที่ยว ใหม่ๆ ในญี่ปุ่น จะมาแนะนำ.
ถ้าใครชอบ กลิ่นไปทะเล สายลม แสงแดด สัมผัสคนท้องถิ่น กินอาหารพื้นเมือง เดินชมเมืองเก่า ตกดึกดื่มเหล้าเคล้าสาเก ไปที่นี่เลย ค่ะ … เมือง โคจิ
โคจิ .. Kochi เป็นจังหวัด ที่ อยู่บนเกาะ ชิโกกุ โดยเกาะนี้ ประกอบด้วย 4 จังหวัด โคจิเป็นจังหวัดที่ ที่พื้นที่มากที่สุด แต่กลับมีประชากรน้อยที่สุด
ลักษณะภูมิประเทศ โคจิ มีทั้ง ทะเล แม่น้ำ และภูเขา เรียกว่า ไปที่เดียวเที่ยวได้ครบสิ่ง.
เมืองโคจิ เป็นเมืองท่องเที่ยว ที่คนญี่ปุ่น รู้จักกันดี ผ่านรายการทีวี แต่น้อยคน ที่มีโอกาสได้ไปเยือน
ไปโคจิ ไปไหน เที่ยวยังไง .. มาดูกัน.
วิธีเดินทางไปโคจิ ทำได้หลายวิธี แต่ที่นกเดินทาง ใช้วิธี บินลงโตเกียว . แล้วบินในประเทศ ไปสนามบิน Kochi Ryoma Airport.
ตรงหน้าสนามบิน จะมีรถshuttle bus เข้าเมือง รถจะจอดที่ สถานีรถไฟ ซึ่งอยู่กลางเมือง จากสนามบินเข้าเมือง ใข้เวลา ประมาณ 1 ชม. ระยะทาง ประมาณ 40 กม.

หน้าตารถบัสเข้าเมืองที่สนามบิน

นี่ก็รถบัสเข้าเมืองจะจอดอยู่หน้าสนามบิน
การเดินทางในจังหวัดโคจิ มีรถไฟ หลายเส้นทาง รถออก ทุก 1ชม. แต่ช่วงเวลาเร่งด่วนจะออกทุก 30 นาที

รถบัสจะพามาลงตรงนี้ เป็นสถานีรถไฟ JR Kochi Station กลาง เมือง โคจิ ที่นี่จะมี information center เปิดให้บริการ ถึง 5 โมงเย็น เจ้าหน้าที่พูดภาษาอังกฤษได้ มีแผนที่ ภาษาอังกฤษให้บริการด้วย สามารถแวะสอบถามรายละเอียดได้ที่นี่ มีที่เช่าพอคเกต ไวไฟด้วย

มองจากสถานีรถไฟ ฝั่งตรงข้าม หน้าตาตึก จะเป็นอย่างที่เห็น

อนุสาวรีย์ ด้านหน้า สถานี JR Kochi Station

รถแทรม ของเมืองโคจิ
โคจิเป็นเมืองปลอดภัย รถราบนถนน น้อย มาก ไม่ขวักไขว่ .เป็นเมืองสวรรค์ของนักปั่นจักรยาน แต่ถ้าใครมีเวลาน้อย แนะนำเช่ารถขับเอง ขับง่าย มาก ร่นเวลาที่ต้องรอรถโดยสารสาธารณะไปได้มาก ทีเดียว
- เก็บส้มยูซุ ที่ หมู่บ้าน คิตะคะวะ (Kitagawa Village)
ส้มยูซุ เป็นผลไม้ ที่เรียกได้ว่า เป็นสัญลักษณ์ ของเมือง โคจิ เพราะผลิตได้เป็นอันดับ 1 ของญี่ปุ่น
เป็นส้มเปลือกหนา กลิ่นหอม รสเปรี้ยวเหมือนมะนาว ความแปลกคือ ถึงแม้เปลือกจะหนา แต่สามารถกินได้ทั้งเปลือก เพราะเปลือกมีกลิ่นหอม และไม่มีรสขม
ชาวโคจิ ใช้ส้มยูซุ ปรุงอาหารมากมาย ใช้ผสมในข้าวปั้น แทนน้ำส้มสายชู น้ำมันสกัดจากส้มยูซุ ใช้เป็นส่วนผสมของเครื่องสำอางค์ ราคาแพงลิ่ว น้ำส้มยูซุ อร่อยเปรี้ยวหอมหวาน อร่อยกว่าน้ำมะนาวซะอีก
ส้มยูซุ จะเหลืองอร่ามพร้อมเก็บเกี่ยว ในช่วงปลายเดือนตค. ถึง พย. ใครที่ ไปเที่ยวเมืองโคจิช่วงนั้น สามารถเข้าไปช่วยชาวบ้านเก็บส้ม สดๆจากสวนได้

ถนน สองข้างทางเป็นสวนส้มและโรงงานแปรรูปส้มยูซุ

โรงงานเล็กๆ ในครัวเรือน แปรรูปส้มยูซุ

เครื่องคั้นน้ำส้มยูซุ แบบใช้แรงคน ภูมิปัญญาชาวบ้าน

คั้นน้ำส้มต้องออกแรงหน่อย

สหกรณ์ส้มยูซุ ชาวบ้านจะเอาส้มมารวมกันที่นี่เพื่อแปรรูปและจำหน่าย
2.วัด จิคุริน (Chikurin Temple)
ท่องเที่ยวสายบุญ เกาะชิโกกุ มีวัด สองร้อยกว่าแห่ง ชาวญี่ปุ่นเชื่อว่า ถ้า สามารถ ไปไหว้ได้ครบทุกวัด จะเป็นสิริมงคล ต่อชีวิต
วัดจิคุริน เป็นวัด ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่น เป็นวัดที่เป็นเส้นทาง จาริกแสวงบุญ เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้น มากว่า 1292 ปี รุ่งเรืองถึงขีดสุดในสมัยเอโดะ ภายใต้การปกครองของแคว้นโทสะ
เจดีย์ แต่เดิม มี 3 ชั้น แต่ถูกทำลายลง ปัจจุบัน เป็นเจดีย์ ที่สร้างขึ้นใหม่ มี 5 ชั้น บรรจุ พระบรมสารีริกธาตุ ของพระพุทธเจ้า
วัดนี้ อยู่บนยอดเขา สามารถขับรถขึ้นมาได้ แต่ถ้าใครอยากเดินขึ้น มีทางเดินขึ้นเขา ปลายทางจะโผล่ที่ทางเข้าวัดพอดี

บันไดทางขึ้นหน้าวัด
3.Godaisan Park
สวนสาธารณะ ที่เป็นจุดชมวิวมุมสูง บนภูเขา ของเมืองโคจิ ที่สวยที่สุด อยู่ใกล้ๆ กับ วัด จิคุริน เดินถึงกันได้
— เนื่องจากทริปนี้ ถ่ายรูปมาเยอะมาก เลยขอยก สถานที่ท่องเที่ยว แห่งที่ 4 ไปยังตอนที่ 2 เลยนะคะ …–
น่าไปเที่ยวมากเลยค่ะ
ถูกใจถูกใจ