ทริป เกาหลีเหนือ ส่งกลับหรือจับขัง..10 days Liberation day tour ตอนที่ 9 การเข้าเคารพศพผู้นำทั้งสอง และบรรยากาศการได้เดินในเมืองพยองยาง
เช้าวันนี้ เป็นเช้าวันที่ไกค์ ย้ำนักย้ำหนาว่า ต้องแต่งตัวให้ พิเศษ และสุภาพ
อีเมลที่ไกค์ส่งมาให้เรา ก่อนเดินทางไป เสื้อผ้ามีความรุนแรง ขนาดที่ว่า ผู้ชายต้องใส่ ชุด ระดับสูท หรือพี่จะนุ่งเสื้อเชิ้ต พี่ต้องผูกเนคไทร์ด้วย รองเท้า สุภาพหุ้มส้นเท้า ห้ามผ้าใบ และ กางเกง ไม่ว่าจะชายหรือหญิง ห้ามนุ่งยีนส์ โดยเด็ดขาด
ผู้หญิงนี่คือ .. ห้ามใส่เสื้อยืด ห้ามนุ่งกางเกงยีนส์ และถ้าเป็นไปได้ ให้ใส่ชุดปานว่าจะไปงานเลี้ยงผู้หลักผู้ใหญ่ แต่ชุดที่ว่า ต้องมีแขน ห้ามเปิดเผยให้เห็นหัวไหล่ และ ต้องห้ามเห็นหัวเข่า .. และไม่ว่าจะพอใจหรือไม่พอใจก็ตาม คุณตัดสินใจมาเหยียบ DPRK แล้ว คุณต้องยอมรับการไปเคารพท่านผู้นำ ไม่ว่าจะพอใจหรือไม่ก็ตาม ถ้าไม่พอใจ ก็ไม่ควรคิดอยากไปเหยียบประเทศนี้
ก่อนเดินทาง เราให้พี่แม่บ้านจัดกระเป๋าให้ เตรียมเสื้อเชิ้ต ใส่ไม้แขวนไว้ให้ กับเสื้อยืดกองๆไว้
แต่ตอนเปิดกระเป๋าออกมา พี่แม่บ้านแกพับมาให้แต่เสื้อยืด เสื้อที่อยู่ในไม้แขวนแกไม่เห็น..
สุดท้าย ชุดที่ไร้ทางเลือกของเรา คือ เสื้อ สีฟ้า เป็นเสื้อ ถักหน้าตาคล้ายเสื้อยืด กับ กางเกงสีฟ้า หน้าตาคล้ายกางเกงยีนส์
ตอนเดิน ลงมาจากห้องโรงแรม เจอไกค์ ชาวอังกฤษที่หน้าลิฟท์ ไกค์บ่น เพราะพี่เบญ ใส่เสื้อยืด และเรา ใส่ชุดดูลำลองเกินไป เราบอกไกค์ว่า นี่ไม่ใช่เสื้อยืดนะ มันเสื้อถัก และ นี่ไม่ใช่กางเกงยีนส์นะ มันกางเกงสีฟ้า .. พี่เบญ รีบกลับเข้าห้อง ไปเปลี่ยน ใส่เสื้อเชิ๊ต .แต่เราไม่มีทางเลือก.. รู้สึกตะขิดตะขวงใจ พี่ไกค์ แกบ่นงึมงำ ไอแจ้งยูทางเมลแล้วนะ….
เดินลงมาเจอ เพื่อนร่วมทริปทั้งหลาย พวกหนุ่มๆ ใส่สูทซะหล่อไปทั้งกลุ่ม ป้าๆมองเราหัวจรดเท้า ตำหนิด้วยสายตา… ตอนนั้นเรารู้สึกเหมือนเป็นสาวใช้ อยู่ในกลุ่มลูกท่านหลายเธอมาก มาก ได้แต่คิดในใจ .”ไม่น่าเลย ควรเชคกระเป๋าก่อน ออกเดินทาง เราสะเพร่าเอง”
ด้านหน้าตึก Kumsusan Memorial Palace of the Sun ซึ่งเป็นตึกที่เราจะ เข้าไปทำการเคารพ ท่านผู้นำ .. มีรถทัวร์ จอดเรียงราย อยู่เต็มไปหมด เยอะจนน่าตกใจ ทำให้เรารู้ว่า นักท่องเที่ยว ที่เข้ามาเที่ยวเกาหลีเหนือ มีเยอะ กว่าที่คิดไว้มาก
ด้านหน้าตึก เราถูกเรียกมาเข้าแถว .. พี่ไกค์ อบรมมารยาทลูกทัวร์ พร้อมสั่งว่า … ตรงทางเข้า ต้องเก็บกล้อง และทุกสิ่งทุกอย่าง ไว้ที่รับฝากให้หมด ทุกคนจะต้องเดินเข้าไป ตัวเปล่า ไม่มีสัมภาระ ห้ามคุย และห้ามหัวเราะ โดยเด็ดขาด ต้องสำรวมและอยู่ในความสงบ เท่านั้น.
นักท่องเที่ยวทุกคน ถูกพามาเข้าแถว เพื่อเข้าไป ในตึก.. หลังฝากสัมภาระ และผ่านเครื่องสแกน เราต้องเดินเรียงหนึ่งเข้าไป
จุดแรก ตัวแทนจะ วางช่อดอกไม้ ที่รูปปั้น ท่านผู้นำ คิมอึนซุง ขนาดใหญ่ และเข้าแถวหน้ากระดาน เรียง 5
แถวแรก ทำความเคารพ โดยก้มหัวเคารพ น้อมลงคำนับ แบบญี่ปุ่น .. เรา อยู่แถวที่สอง ตอนเข้าไป คือ ค่อนข้างไร้สติ ตอนที่แถวแรก ก้มศีรษะทำความเคารพ เรา ก็ ก้มตาม เหมือนเป็นสัญชาตญาน หนุ่มเยอรมัน ที่ยืนข้างเรา หลุดหัวเราะออกมา .. เราผู้ซึ่งสติไม่ครบสมบูรณ์ หลุด หัวเราะ ออกมา กิ๊กนึงแล้วรีบเบรคหัวเราะเอี๊ยด … ไกค์ถลึงตาใส่ เกือบไปแล้วมั๊ย.. โทษฐานไม่สำรวมต่อหน้าร่างท่านผู้นำ จะโดนอะไรวะเนี่ย.
หลังเคารพ รูปปั้นท่านผู้นำเสร็จ แถวหน้ากระดานเรียงห้า ต้องเดิน ไปที่ห้องซึ่งอยู่ทางซ้ายมือ
ร่างของประธานาธิบดี คิมอึนซุง นอนสงบนิ่ง อยู่ในโลงแก้ว ผมสีดำขลับดกหนาถูกหวีเรียบแปล้ ใบหน้าสงบนิ่งเหมือนนอนหลับ ร่างท้วม ใส่ชุดทหาร แถวหน้ากระดาน เรียง 5 ต้องทำความเคารพ 3 ครั้ง ด้วยการเดินวน เคารพ โลงแก้วฝั่งเท้า ฝั่งข้าง ทั้งสองข้าง แต่ห้ามเดิน ไปตรงฝั่งศีรษะ..
หลังทำความเคารพเสร็จ ก็เดินไปยังอีกห้อง เป็นห้องแสดงของสะสม ส่วนตัวและ เหรียญ รวมถึง ของที่ระลึก และใบประกาศเกียรติคุณ ของ ประธานาธิบดีคิมอึนซุง
ห้องนี้ทำให้เราได้เห็น ว่า ในสมัยที่ประธานาธิบดี คิมอึนซุง เรืองอำนาจ เกาหลีเหนือ มีความสัมพันธ์ที่ดี กับประเทศ อิตาลี เปรู และประเทศทางแถบแอฟริกามาก เพราะมีของบรรณาการ จากผู้นำ ของประเทศเหล่านั้น เยอะมาก จนน่าตกใจ .ถัดจากห้อง นี้ เป็นห้อง เก็บของของ ประธานาธิบดี คิมจองอิล ซึ่งไม่ต่างจาก ห้องเก็บของ ของ ประธานาธิบดี คิมอึนซุง ซักเท่าไหร่
แต่มีของที่น่าสนใจอยู่ชิ้นหนึ่ง มาจากประเทศไทย . เป็นปริญญาดุษฎีบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยเปิดชื่อดัง
น่าแปลกใจ นิดหน่อย ตรง รางวัลสันติภาพ จากแอฟริกา ที่มอบให้ ผู้นำเกาหลีเหนือ มีหลายชิ้นมาก แต่ละชิ้นยิ่งใหญ่อลังการ แถมบางประเทศ ที่ขึ้นชื่อว่ายากจนมาก แต่ของที่ให้ ผู้นำเกาหลีเหนือเป็นของขวัญ ดูแพงมาก .มีทั้งชุดที่ทำจากหนังสัตว์ หนังเสือหนังหมี ประดับทอง เหมือนชุดคลุมราชาหัวหน้าเผ่า มีดาบใหญ่ยักษ์ ยังกับดาบ เกม ออฟโทรน มี หัวเต่ายักษ์ หัวขาดยังกับใ้ช้กิโยตินประหาร มีหัวหมียักษ์ มาครบทั้งครอบครัว..
ออกมา จากห้องเก็บของสะสม จะเป็น ห้อง โถง อีกห้อง ร่างของประธานาธิบดี คิมจองอิล นอนสงบนิ่งอยู่ในโลงแก้ว
ประธานาธิบดีคิมจองอิล รูปร่างเล็กกว่า ประธานาธิบดีคิมอึนซุง ผมบนศีรษะ เป็นสีดอกเลา หยิกและบางกว่า ใบหน้ามีกระอยู่บนแก้ม หน้าผากเถิกสูง ร่างนั้นนอนสงบนิ่ง เหมือนกำลังนอนหลับอยู่ชั่วนิรันดร์ที่นั่น ไม่ใด้เป็นแค่ร่างที่ไร้วิญญาน
แถวหน้ากระดานเรียง 5 ต้องเข้าไปทำความเคารพ ทั้ง 3 ฝั่ง เหมือนเช่นเคย จากนั้น เดินเรียงแถวกันเงียบๆ ออกมา นอกตัวตึก เพื่อนรับสัมภาระคืน
ผู้นำของเกาหลีเหนือ มี อยู่ 3 คน ในสามรุ่น
การเรียงลำดับความสำคัญ ยังคงยืนยันให้บรรพบุรุษสำคัญที่สุด เหมือนอย่างจีนโบราณ
คนแรก President คิมอึนซุง หรือ ประธานาธิบดี คิมอึนซุง. ผู้ปลดแอก เกาหลีเหนือ จากญี่ปุ่น ในสมัยสงครามโลกครั้งที่2 และยืนหยัดต่อสู้กับอเมริกา ในสมัยสงครามเกาหลี
คนที่ 2 General คิมจองอิล หรือ นายพล คิมจองอิล ลูกชาย ของประธานาธิบดี คิมอึนซุง จะเห็นว่า เขาไม่เรียก คิมจองอิล ว่า ประธานาธิบดี แต่เรียกว่า นายพล แทน เพราะลูกชาย ไม่สามารถ มียศที่สูงเทียบเท่าพ่อได้.
คนที่ 3 คนปัจจุบัน Master คิมจองอึน หรือ นายหัว คิมจองอึน .. ผู้เป็นลูกชายของคิมจองอิล หลายชายของ คิมอึนซุง แน่นอนว่าหลานชายจะมียศ ใหญ่กว่าทั้งพ่อ และปู่ไม่ได้
แบบนี้ ถ้า รุ่นต่อๆไป ไม่เหลือแค่ Principle ครูใหญ่ ผู้ใหญ่ พี่ใหญ่ รึ.. เราแอบคิด แต่ไม่กล้าถาม.
เราเดินทางต่อ เพื่อไป เยี่ยมชม
Jonsong Revolutionary Site เป็นถ้ำหลบภัย ที่ใช้ในสมัยสงครามเกาหลี ปี 1950 ของประธานาธิบดี คิมอึนซุง เป็นถ้ำ ที่อยู่ใต้เนินดิน มีต้นไม้ปกคลุม ด้านใน เป็นห้องต่างๆ ติดแอร์เย็นเยียบ ถ้ำก็คือถ้ำ ก็คือถ้ำที่เป็นห้องๆ ตอนที่เราถ่ายรูปนั่นนี่นอกถ้ำ ชะนีเกาหลีเหนือ ที่ใส่ชุดฮันบก ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ดูแลสถานที่ ไม่รู้เกิดเขม่นอะไรเราขึ้นมาไม่ทราบ เดินไปฟ้องไกค์เกาหลี ว่านังชะนีไทย ท่าทางแปลกๆ ที่ถือกล้องตัวใหญ่ๆ นั่น ต้องแอบถ่ายรูป ที่เค้าไม่อนุญาต แน่ๆ ..
ไกค์ เดินเข้ามาหาเรา.. มีวิธีพูดอันนุ่มนวล ว่า .. ยูต้องไว้ใจไอนะ .. เค้าคิดว่ายูถ่ายรูป สถานที่ ที่เค้าห้ามแน่ๆ ขอดูรูปหน่อยได้ไหม .. เราเปิดให้ฮีดู บอกว่า ไม่ได้ถ่ายนะ ดูได้เลย ถ้าจะให้ลบ อันไหน ก็บอกเลย.. ฮีขอดู ไม่มีรูปที่เค้าไม่อนุญาต แล้วก็ ให้เราไปถ่ายต่อได้..
แต่เจ้าที่เค้าน่าจะแรงมาก เพราะ การ์ดอันนั้นของเรา มันหายไป. จนถึงตอนนี้ ก็ยังหาไม่เจอ.
ช่วงบ่าย เค้าพาเราไป ที่ร้านหนังสือ ให้ซื้อหนังสือต่างๆของเกาหลีเหนือกลับบ้าน ซึ่งหนังสือส่วนใหญ่ จะล้วนเป็นหนังสือสรรเสริญ ท่านผู้นำ หนังสือเกี่ยวกับสงคราม . ฝรั่งซื้อกันไปเยอะมาก แต่ไม่ได้กินเงินเราหรอก .. แค่นี้ ก็สรรเสริญ จนอิ่มเอม จะแย่แล้ว.
จากร้านหนังสือ พวกเราได้รับอนุญาตให้ไปเดิน ที่จตุรัสคิมอึนซุง เค้ากำลังเตรียมงานวันชาติกัน อยู่ มีการซ้อมดนตรี วงใหญ่ มีการซ้อมควงธงกันของสาวๆ ช่วงนี้เค้าอนุญาตให้เรา ได้มีโอกาส เดินเล่นข้างถนน หลังกักขังเรามาเป็นเวลา สี่วัน สามคืน ตอนได้เดินข้างถนน แทนที่จะ เป็นการนั่งในรถบัส เรารู้สึกเหมือนได้ติดปีกบิน ดีใจเหมือนน้องหมา ที่เจ้าของ พาออกไปเดินเล่นรอบหมู่บ้าน
เราเดินออกมา เจอซุ้มขายของข้างถนน มีขนมน่ากิน ราคาถูก เราขอ ไกค์ ซื้อ ขนม .. ขอแลกเงิน ไกค์ บอกว่าเดี๋ยวจ่ายให้เอง เราไม่มีสิทธิซื้อขนมตามข้างถนนเอง .. ว่าแล้ว ฮีก็บอก ว่า ฮีเลี้ยงเอง แล้ว ให้เราเดินนำไปก่อนเลย .. เราไม่เห็นว่าไกค์ จ่ายเงินไปเท่าไหร่ และจ่ายยังไงด้วยซ้ำ.
ขนมที่ว่า รสชาติ เหมือนปาท่องโก๋โรยน้ำตาล หวานๆ กับขนมซอง เหมือนขนมแป้งพองๆกรอบๆที่เอาไว้เลี้ยงปลาตามวัด ก็กินได้ ไม่เลวร้ายอะไร.. หวานๆเค็มๆ

กลางจตุรัสคิมอึนซุง

คนเกาหลีเหนือกำลังซ้อมเพลงเพื่องานใหญ่ งานวันชาติ

สาวน้อยจราจร
ทริปเกาหลีเหนือ เรายิ่งเขียนก็เหมือนจะยิ่งยาว แต่จริงๆ แล้วมันไม่ยาว เพราะเรื่องราวที่เล่าจะเริ่มรวบรัดขึ้นเรื่อยๆ เพราะกล้องเราพังกลางทริป ฝนตกหนัก หลังจากนี้ ติดต่อกัน ในบางวัน และ เหตุการณ์ต่างๆ เริ่มจะรวบรัดลงเรื่อยๆ เพราะเหตุใดคงต้องอ่านกันต่อ วันรุ่งขึ้น เป็นวันชาติเกาหลี ซึ่งขอผลัดไปเล่า ในตอนต่อไป ..
เราจะพยายามเขียนให้จบก่อน เดือน ตค.นะคะ ทริปใหม่มาจ่อแล้ว แต่งานเราเยอะจริงๆช่วงนี้ค่ะ ..