รีวิวทริป เปรู ตอนที่ 14 คืนสุดท้าย ใน Inca Trail
แต่สิ่งสำคัญ สิ่งเดียว ที่มากกว่าการอาบน้ำคือ ฉันต้องเข้าห้องน้ำ ไม่ได้ทำ ธุระส่วนตัวมา ร่วม 3 วันแล้ว ข้าศึกบุกจนรุกล้ำ จนจะวกกลับขึ้นไปบนหัว แล้ว..
ฉันอุ้มกล้องถ่ายรูป คู่ใจ ไปนั่งรอต่อคิวห้องน้ำ ..ซึ่งกว่าจะได้เข้า ก็นานนม.. ไฟฉาย คาดเอาไว้ที่หัว ในมือกอดประคองกล้อง หลังเข้าไปในห้องน้ำ อันสุดแสนจะเล็กแคบ ได้ หันไปมองที่ประตู .. ประตู ไม่มีกลอน.. ฉันลงนั่งยองๆ .. จะเอามือ จับประตู รึ ก็ ถือ กล้องถ่ายรูปอยู่ ขณะที่กำลังยงโย่ยงหยก บิ๊วอารมณ์ อยู่ ประตู ก็เปิดพรวดออกไป ..
ผู้หญิงชาวฮ่องกง นางเปิดประตู ส้วมที่ฉันนั่งเข้ามา ทำท่าตกใจ ไม่มีคำขอโทษ ทำได้เพียงแค่เดินหนีไป .. อารมณ์ฉันตอนนั้น คือ โมโห . ห้องน้ำ ไม่มีห้องไหนมีกลอน ถ้าประตูปิด แปลว่ามีคน จะมีมารยาทถามก่อนเปิดหน่อย ไม่มีเลย ขี้หดตดหาย เป็นยังไง .. ซาบซึ้งเลย ตอนนั้น
ฉันลากสังขาร ออกไป เรียกน้องสาว .. มานั่งเฝ้าหน้าส้วมให้ทีเถอะ ..
อาหารมื้อค่ำวันนั้น เป็นมื้อพิเศษ อะไรที่ขนๆ มาต้องเอาออกมากินให้หมด มีทั้งเนื้อวัว เนื้ออัลปาก้า ทั้งเค้ก . ก่อนที่อาเบล จะบิ๊วอารมณ์ ซาบซึ้ง..และเรียก ลูกหาบ ทั้ง3 คน และพ่อครัว ให้มากล่าวคำขอบคุณ แนะนำตัวและกล่าวคำร่ำลา ..
อาเบลพูดกับฉันว่า ลูกหาบ มีฐานะยากจน .. เขาพยายามสอนให้ลูกหาบ เวลาได้เงินมา ให้ ใช้แต่สิ่งที่เหมาะสม ไม่เอาไปดื่มจนหมด และให้เจียดเงินบางส่วน มาซื้อรองเท้า ดีดี เพราะ รองเท้า คืออุปกรณ์ สำคัญที่สุด ในการทำงาน เพราะการเดิน ใน เทรล นี้ โอกาสเกิด อุบัติเหตุ จากรองเท้าที่ไม่ดี สูงมาก
ฉันถามถึงอาการของ ลูกหาบ คนที่ตกเขา.. อาเบลบอกว่า หัวน็อคพื้น หัวแตก บาดเจ็บ หน้าบวมจนตาปิดไปข้างหนึ่ง ต้องค่อยๆ ฝืนเดิน ออกมา .. ฟังแล้ว สะท้านใจ…
ฉัน กล่าวขอบคุณ พ่อครัวสำหรับอาหาร อร่อยๆ ที่ ทำให้ทาน ตลอดระยะเวลา 3วัน ที่อยู่ด้วยกัน ขอบคุณลูกหาบ ที่ช่วยแบกสัมภาระ เสบียง และ จัดเตรียมที่หลับที่นอนให้ พวกฉัน ขอบคุณ ทุกคน ที่ดูแล พวกฉัน เป็นอย่างดี ..ทำให้การเดินทาง สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยความปลอดภัย..
ธรรมเนียมของการเดินป่า แบบนี้ วันสุดท้าย คือขั้นตอน ของการจ่ายทิป ถ้าไปเป็นกลุ่ม หลายๆคน ก็หารเฉลี่ย เงินทิปกันไป ไม่หนักหนา แต่ฉันไป กันแค่ สองคน ค่าทิป หนักหนา พอสมควร เพราะมี การกำหนดทิป ขั้นต่ำ เป็นมารยาทที่จะต้องจ่าย เรทที่ต้องจ่ายทิป ของเปรู ไม่สาหัสเท่า ทิปซาฟารี ของแอฟริกา แต่ก็ แพงพอดู . ทิป คิดเป็นวัน ขั้นต่ำ สำหรับลูกหาบ ราววันละ300บาท ต่อคน ของพ่อครัว ราววันละ 500บาท ทิปไกค์ ซึ่งควรจะเยอะกว่าพ่อครัว.. เบ็ดเสร็จ ฉันหมดเงินค่าทิป ไป ราว 8000บาท สำหรับ คน ห้าคน..
คุณอาจจะทำเป็นมึน ไม่จ่ายก็ได้ แต่สำหรับฉัน บางครั้ง การให้กำลังใจ ให้รางวัลชีวิต คนที่ตั้งใจทำงาน เป็นสิ่งดีดี ที่ไม่ควรละเลย
ก่อนเข้านอน อาเบล บอกว่า เรา ต้อง ตื่นตั้งแต่ตี 4 เพื่อ ไป รอที่ หน้าด่าน หลังเชคพาสปอร์ต เราจะได้ มุ่งหน้า สู่ Sun gate (Intipunku) โบราณสถาน ที่มีจุดชมวิว ที่สามารถ มองเห็นพระอาทิตย์ขึ้น เหนือ มาชูพิกชู เหตุที่ต้องรีบไปเพราะ ทุกคนมารวมกันที่นี่หมด และ แถวที่ต้องต่อคิวเชคพาสปอร์ท จะยาวมาก และคนที่มาช้า อดดูพระอาทิตย์ขึ้น เพราะมัวแต่ต่อแถวแน่ๆ .แถมยังจะชวด จุดชมวิว ดีดีด้วย.
คืนนั้น ฉันแต่งชุด เดินป่า เข้านอน พร้อม ตื่นและลุกออกจากที่นอน เดินทางได้ทันที..
เช่นเดียวกับทุกคืน ฉันนอนหลับๆตื่นๆ ด้วยความหนาว บวกกับความกังวล.กลัวว่าจะตื่นไม่ทัน กลัวว่าจะ ไม่ได้ยืนอยู่ ในจุดที่สวยที่สุด ของ Sun gate
ทางเดินก่อนจะข้ามสะพาน ไปถึงแคมป์